Sampling & Storage Wastewater Sample
การเก็บและกักตัวอย่างน้ำเสีย
การเก็บและกักตัวอย่างน้ำเสีย
การเก็บตัวอย่างน้ำ
ปัจจัยที่จะทำให้ได้ข้อมูลที่ดีในการเก็บกักตัวอย่างน้ำเสียมี ดังนี้
- ต้องแน่ใจว่าตัวอย่างที่ถูกเก็บมานี้เป็นตัวแทนของน้ำเสียทั้งหมด
- ใช้วิธีการหรือเครื่องมือเก็บตัวอย่างน้ำอย่างถูกต้อง
- การกักตัวอย่างน้ำก่อนที่จะนำไปวิเคราะห์ ต้องทำให้ถูกต้อง
ตำแหน่งสำหรับเก็บตัวอย่างน้ำ
- หาตำแหน่งการเก็บตัวอย่างโดยใช้แบบแปลนซึ่งจะแสดงทิศทางของน้ำไหลในท่อต่าง ๆ
- ควรเก็บตัวอย่างที่ความลึก 2/3 ของระยะความลึกของน้ำในท่อระบายน้ำ หรือ รางระบายน้ำเสีย
- รางระบายน้ำหากกว้างมาก ควรจะเก็บรอบบริเวณแนวกว้างของรางระบายน้ำให้ทั่วถึง
- ความเร็วของน้ำที่ไหลบนจุดที่จะเก็บ ควรจะมีอยู่ตลอดเวลา เพื่อป้องกันไม่ให้ตะกอนนอนก้น
- การเก็บตัวอย่างไม่ควรจะกวน หรือทำให้น้ำบริเวณนั้นปั่นป่วนเพราะอาจกระทบกับก๊าซที่ละลายอยู่ ทำให้ไม่ได้ตัวอย่างที่ถูกต้อง
ช่วงเวลาในการเก็บตัวอย่างน้ำ
ควรมีช่วงเวลาที่สั้นพอที่จะได้รับตัวอย่างที่ถูกต้อง ยิ่งสั้นเท่าไหร่ก็ยิ่งดี เช่น เก็บตัวอย่างทุกๆ 10 หรือ 15 นาที จะเป็นช่วงเวลาที่แนะนำว่าละเอียดพอเพียงในรอบของการเก็บตัวอย่าง
ปริมาณน้ำตัวอย่าง
ควรเก็บอย่างน้อย 2 ลิตร สำหรับการวิเคราะห์หาลักษณะทางกายภาพ และเคมี
300 ลบ.ซม. สำหรับการวิเคราะห์หาลักษณะทางชีวภาพ ภาชนะควรผ่านการฆ่าเชื้อโรคอย่างถูกวิธี
การกักตัวอย่างน้ำ
โดยทั่วไป ตัวอย่างน้ำที่ถูกเก็บมาแล้ว ควรทำการวิเคราะห์โดยทันที แต่เนื่องจากสถานการณ์ไม่อำนวย การเก็บกับตัวอย่างอย่างถูกวิธีจึงจำเป็น ในทางปฏิบัติ การเก็บกักตัวอย่างน้ำ ไม่ควรให้อากาศแทรกซึมเข้า จึงควรที่จะเก็บตัวอย่างให้เต็มขวด ภาชนะควรใช้แก้วสีเข้ม สำหรับการวัดค่า pH ควรทำทันทีเนื่องจากจะมีการเปลี่ยนแปลงค่า pH ค่อนข้างมาก