“จะทำ Reuse ทั้งที... อย่าแค่ต่อท่อ ให้ต่อสมองด้วย!”

“การออกแบบระบบ Reuse ก็เหมือนการจีบคน —
ถ้าคุณไม่รู้ว่าคนที่จีบ ‘มีของ’ แค่ไหน... ยังไงก็ไม่รอด” 😎

Reuse System ก็เช่นกัน
ก่อนจะรีไซเคิลน้ำได้ดี ต้อง “รู้จักน้ำเสียของตัวเองก่อน”
เพราะน้ำแต่ละโรงงานมีนิสัยไม่เหมือนกัน — บางน้ำก็ซน (pH เหวี่ยง)
บางน้ำก็ขี้งอน (Scaling ง่าย) บางน้ำก็นิ่งเกินไป (COD ไม่ลดซักที)

• Water Security • Environmental Responsibility • Technological Excellence
  — The Aceken Way —

1️⃣ รู้จักน้ำของคุณก่อน (Characterization)

เก็บตัวอย่าง → วิเคราะห์ค่า COD, TDS, Conductivity, pH, Hardness

ถ้าคุณไม่รู้ว่าน้ำตัวเอง “เกลือเยอะแค่ไหน” ก็เหมือนขับรถโดยไม่มีเกจน้ำมัน

2️⃣ วาด Flow ให้ชัดก่อนคิดระบบ

เริ่มจาก Mass Balance ง่าย ๆ


น้ำเสียดิบ → UF / MF → RO → Polishing → Reuse Loop → Cooling / Boiler

หลักการง่าย ๆ คือ “น้ำทุกหยดต้องมีที่ไป”
ไม่มีท่อไหนไหลทิ้งโดยไม่รู้ปลายทาง

3️⃣ ตั้งเป้าหมาย Recovery ให้เหมาะ

• 70–80% สำหรับระบบทั่วไป (Cooling / Utility)

• 85–90% สำหรับระบบกู้คืนน้ำขั้นสูง

• >95% เมื่อมี Pre-Treatment และ Polishing ครบวงจร

อย่าตั้ง Recovery สูงเกินโดยไม่คำนวณ Scaling Factor เดี๋ยว Membrane จะลาออกกลางทาง 😅

สมมติ
Feed = 100 m³/h
Recovery ที่ต้องการ = 80%
Reject = ?

Reject = 100 × (1 – 0.8) = 20 m³/h

หมายความว่า ทุก 100 m³/h ที่คุณป้อนเข้า RO จะมีน้ำดี 80 และ Reject 20
ถ้าอยากลด Reject ลง ต้องเพิ่มขั้นตอน Pre-treatment (เช่น UF / Clarifier)
หรืออัปเกรดเป็น High Recovery RO ของ Aceken ที่ใช้ Membrane พิเศษคุม scaling อัตโนมัติ

• ใช้ UF + RO แบบ Skid System จะช่วยลด footprint ได้ 30%

• แยก reject line จาก main drain เสมอ

• เพิ่ม Condensate Reuse ถ้ามี Boiler system — น้ำนี้คุณภาพดีมาก

• อย่าลืม “ทำ Reuse ให้ระบบรักคุณก่อน” คือทำให้น้ำสม่ำเสมอและคงที่ก่อน recycle

• ออกแบบระบบ Reuse ต้อง “คิดแบบวิศวกร แต่พูดแบบนักขาย” —
  เพราะถ้าอธิบายยากเกิน ลูกค้าจะกลับไปซื้อน้ำดิบแทน 😅

• ระบบที่ดีไม่ใช่ระบบที่ซับซ้อน แต่เป็นระบบที่ “ทุกคนในโรงงานเข้าใจและดูแลได้”

• Reuse คือการเปลี่ยนน้ำเสียให้กลายเป็นสินทรัพย์