🎨 กลุ่มสีที่ใช้ในโรงงานฟอกย้อม และทำไมระบบบำบัดถึง "เจอของแข็ง"
อุตสาหกรรมฟอกย้อมใช้สีหลายแบบ ซึ่งทั้งหมดเป็น Organic dye จริงตามนิยามทางเคมี
แต่คำว่า “Organic” ไม่ได้แปลว่า ย่อยง่าย เสมอไป
หลายตัวจัดอยู่ในกลุ่ม สารอินทรีย์ที่จุลินทรีย์ย่อยแทบไม่ได้
เพราะโครงสร้างมันดื้อ แข็งแรง และออกแบบมาให้ทนแสง–ทนซัก (ก็เลยทนการย่อยด้วย!)
นี่คือภาพรวมกลุ่มสีที่โรงงานใช้งานกันมากที่สุด พร้อมผลกระทบต่อระบบบำบัด:
🟥 1) Reactive Dye (สีรีแอคทีฟ)
ใช้กับ: ผ้าฝ้าย, เซลลูโลส
ลักษณะเด่น: สีสด ละลายน้ำดี ติดผ้าแน่น
ปัญหาน้ำเสีย:
-
มี Azo bond (-N=N-) ซึ่งจุลินทรีย์ย่อยได้ช้ามาก
-
ทำให้ COD ตกค้าง
-
ชีวภาพลดสีได้นิดเดียว
-
ต้องใช้ Ozone ช่วยตัดวงแหวนก่อน
สรุป: Organic แต่ ดื้อแรง
🟧 2) Disperse Dye (สีดิสเพิร์ส)
ใช้กับ: Polyester
ลักษณะเด่น: ไม่ละลายน้ำ ต้องกระจายตัวเป็นอนุภาคเล็ก
ผลกระทบ:
-
โครงสร้างเป็น Aromatic rings หนาแน่นมาก
-
แทบไม่ย่อยเลยในระบบบำบัด
-
ชอบเกาะผิว/จับตะกอน
-
ละลายเข้าระบบได้ แต่ไม่ถูกย่อย (เหมือนแขกมาแล้วไม่ยอมกลับ)
สรุป: Organic แต่ แทบไม่ Biodegradable
🟦 3) Vat Dye (สีแวกซ์ / Indanthrene)
ใช้กับ: ผ้าฝ้ายคุณภาพสูง, งานสีทนซัก
ปัญหา:
-
เป็น Organic molecule ที่ใหญ่และเสถียรมาก
-
ออกแบบมาให้ทนการซัก–การใช้งาน → ก็เลยทนการย่อยด้วย
-
ต้องใช้กระบวนการ Oxidation / Ozone ช่วยแยกโครงสร้าง
สรุป: Organic แต่ ดื้อระดับเทพ
🟩 4) Direct Dye (สีไดเรกต์)
ใช้กับ: ผ้าฝ้ายทั่วไป ราคากลาง
ผลกระทบ:
-
มี Azo bond จำนวนมาก
-
ย่อยได้ “บ้าง” แต่ช้ามาก
-
ทำให้ COD และสีลดลงช้ากว่าที่ลูกค้าคิด
สรุป: Organic แต่ ย่อยช้า
🟨 5) Sulfur Dye (สีซัลเฟอร์)
ใช้กับ: ผ้าสีเข้ม เช่น สีดำ สีกรม
ผลกระทบ:
-
แตกตัวพวกกำมะถัน → ทำให้ ORP ต่ำ
-
ถ้าโหลดสูงอาจเกิด H₂S
-
ย่อยยาก + กระทบระบบชีวภาพ
-
COD ค้างในระบบง่าย
สรุป: Organic แต่ กวนระบบชีวภาพได้ง่าย
⚠️ แล้วที่ลูกค้าบอกว่า “สี Organic ทั้งหมด” = หมายถึงอะไร?
คำว่า Organic ในเคมี → แปลว่า “มีคาร์บอน”
ซึ่งหมายความว่า แทบทุกสีย้อมเป็น Organic อยู่แล้ว
แต่…
❌ Organic ≠ ย่อยง่าย
❌ Organic ≠ เป็นมิตรต่อระบบบำบัด
❌ Organic ≠ COD ลดง่าย
ตรงกันข้าม:
สีหลายกลุ่มที่เป็น Organic = ย่อยไม่ได้ในเวลาทำงานจริงของระบบบำบัดน้ำเสีย
นี่คือของจริงที่เจอในโรงงาน:
-
Reactive: ย่อยได้ช้ามาก
-
Disperse: แทบไม่ย่อยเลย
-
Vat: โครงสร้างใหญ่จนดื้อ
-
Sulfur: กวน ORP และย่อยยาก
-
Direct: ย่อยช้า
🔥 ทำไมต้องใช้ Ozone?
เพราะ Ozone = ตัวตัดโครงสร้าง
มันสามารถ
✔ ตัด Azo bond
✔ ตัด Aromatic rings
✔ ลดสีเร็ว
✔ ลด COD ส่วนที่จุลินทรีย์ย่อยช้า
พูดง่าย ๆ:
“Ozone ทำงานกับสีที่จุลินทรีย์ย่อยแทบไม่ได้”
ถ้าไม่มี Ozone → สีค้าง, COD ค้าง, น้ำไม่ใส
⭐ สรุปแบบจึ้ง ๆ
“สีที่ใช้ในโรงงานฟอกย้อมเกือบทั้งหมดเป็น Organic จริงจ้า
แต่เป็น Organic ประเภทที่โครงสร้างดื้อและย่อยสลายได้ช้ามาก
จุลินทรีย์ในระบบบำบัดทำงานกับมันได้ไม่ทันในเวลาเดินเครื่องปกติ
ทำให้สีและ COD ค้างสูง
ดังนั้นต้องใช้ Ozone หรือกระบวนการ Oxidation เข้ามาช่วยตัดโครงสร้างก่อน
ถึงจะกำจัดสีได้ดีและลด COD ได้ตามมาตรฐาน”