นี่คือสองค่าคลาสสิกที่ใช้ประเมิน “สภาพตะกอน” ในระบบบำบัดน้ำเสียแบบ Activated Sludge
แต่หลายคนใช้ผิดจนระบบพังมาแล้วนักต่อนัก 😂
มาดูแบบแบ่งเป็นข้อ ๆ เลย:
1) MLSS = มวลของแขวนลอยทั้งหมดในถัง (All Solids)
Mixed Liquor Suspended Solids
-
วัดเป็น mg/L
-
คือ ของแข็งทั้งหมด ที่แขวนลอยอยู่ในถังเติมอากาศ
(รวมจุลินทรีย์ + ดินทราย + สารอินทรีย์ + สารอินทรีย์ที่ย่อยยาก(Refractory Organics)*** + silica ฯลฯ) -
ใช้ดู “ความหนาแน่นรวม” ของตะกอน
📌 นึกภาพง่าย ๆ
MLSS = คนทั้งหมดในฟิตเนส (ทั้งคนจริง + หุ่นโชว์ + กระเป๋าวางเก้าอี้ 😂)
2) MLVSS = มวลของแขวนลอยที่เป็นอินทรีย์ (จุลินทรีย์จริง)
Mixed Liquor Volatile Suspended Solids
-
วัดเป็น mg/L
-
คือ ส่วนที่เป็นอินทรีย์ล้วน ๆ หลังเผาที่ 550°C
(พวกอนินทรีย์จะเหลือเป็นขี้เถ้า) -
ตัวนี้แหละคือ จำนวนจุลินทรีย์ที่ทำงานจริง ในระบบ
📌 นึกแบบ Aceken:
MLVSS = คนจริงที่ออกกำลังกาย
MLSS = คนจริง + หุ่น + กระเป๋า + ฝุ่นที่ห้อยติดมาด้วย
🔢 สรุปสูตรง่าย ๆ
MLSS = MLVSS + ส่วนที่ไม่ใช่อินทรีย์ (Inorganic Solids)
ดังนั้น
MLSS จะมากกว่า MLVSS เสมอ
อัตราส่วนทั่ว ๆ ไปในระบบดี ๆ คือ
-
MLVSS ≈ 65–75% ของ MLSS
-
ถ้าต่ำกว่า 50% → ตะกอนแก่/มีดินทรายปนเยอะ
-
ถ้าสูงกว่า 80% → ระบบอ่อนแอหรือ under-loaded
📌 ตัวอย่างของจริงแบบเลขสวย(แทงหวยก็ถูก)
ถ้า MLSS = 4,000 mg/L
MLVSS มักอยู่ประมาณ 2,800–3,200 mg/L
→ ระบบกำลังสวย ✨
→ จุลินทรีย์แข็งแรง
→ ตะกอนตกดี (ถ้า SV30 อยู่ 100–150 mL/L)
🧠 ใช้ค่าไหนตอนไหน?
✔️ MLSS — ใช้ดูความหนาแน่นรวม
-
เช็กว่า sludge หนาเกิน/บางเกิน
-
ใช้คำนวณ SRT, F/M
✔️ MLVSS — ใช้ดู “ชีวภาพจริง”
-
ใช้คำนวณ F/M ratio แบบแม่น ๆ
-
ใช้ประเมิน biomass
-
ใช้ตอนปรับ DO, air flow, SRT
พูดง่าย ๆ:
MLSS = น้ำหนักรวม
MLVSS = น้ำหนักของสิ่งที่ทำงานได้จริง
⚡ สรุปแบบ Aceken (อ่านเร็ว 5 วิ)
| ค่า | คืออะไร | ทำหน้าที่ | หน่วย |
|---|---|---|---|
| MLSS | ของแขวนลอยทั้งหมด | ดูความหนาแน่นรวม | mg/L |
| MLVSS | ของแขวนลอยที่เป็นอินทรีย์ (จุลินทรีย์) | ดูปริมาณจุลินทรีย์จริง | mg/L |
***สารอินทรีย์ที่ย่อยยาก (Refractory Organics)
คือสารอินทรีย์ที่
-
จุลินทรีย์ย่อยแทบไม่ได้
-
ย่อยช้ามาก
-
หรือไม่ตอบสนองต่อกระบวนการชีวภาพทั่วไป
-
มักไม่เผาไหม้หมดในขั้นตอนเผาที่ 550°C
ตัวอย่าง:
-
lignin
-
humic acid
-
tannins
-
สีจากโรงงานบางประเภท
-
พวกอนุพันธ์ aromatic เสถียรสูง
-
colloid บางชนิดที่ติดมากับแร่ดิน
🧪 ตัวอย่างของ “สารอินทรีย์ที่ย่อยได้… แต่ต้องใช้เวลาเป็นศตวรรษ”
-
lignin (กว่าจะย่อย → ระดับปี–ทศวรรษ)
-
humic acid (ระดับทศวรรษ)
-
สี azo (บางแบบระดับร้อยปี)
-
aromatic rings หลายชั้น (โครงสร้างเสถียรเกินไป)
-
polymer cross-linked (ต้องแตกโครงสร้างก่อน)
ในระบบบำบัดน้ำเสียที่มีเวลา “เฉลี่ย 4–20 ชั่วโมง”
สารพวกนี้ = ย่อยไม่ได้ในเชิงปฏิบัติ
🧠 สรุปสวย ๆ
“สารอินทรีย์บางชนิด แม้ตามทฤษฎีจะย่อยสลายได้ แต่ต้องใช้เวลานานมากในระดับหลายสิบปี–หลายร้อยปี จุลินทรีย์ในระบบบำบัดจริงจึงแทบย่อยไม่ได้ เราจึงจัดมันเป็น ‘สารอินทรีย์ที่ย่อยยากมาก’ หรือ Refractory Organics”