ถังกรองน้ำอุตสาหกรรม หากได้รับการออกแบบระบบป้อนน้ำเข้า ระบบรวบรวมน้ำ ระบบล้างสารกรอง อย่างถูกหลักทางวิศวกรรมศาตร์ ผู้ควบคุมระบบดูแลทำตามคู่มืออย่างต่อเนื่อง ระบบผลิตน้ำจะสามารถดำเนินไปได้อย่างสม่ำเสมอ แต่หากเกิดการเปลี่ยนแปลง เช่น คุณภาพน้ำขาเข้าเปลี่ยน การสะสมตะกอนหมักหมมอันเนื่องมาจากการ Backwash ไม่ถูกวิธีเป็นเวลานาน การออกแบบไม่ครอบคลุมถึงสถานการณ์กรณีที่เลวร้าย(worst case scenario) เช่น ฤดูกาลที่มีผลกระทบต่อแหล่งน้ำ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้อาจเป็นต้นเหตุแห่งปัญหาการ Backwash ทำความสะอาดแล้วน้ำที่ผลิตได้ไม่สะอาดตามต้องการ
การแก้ปัญหาที่ง่ายและประหยัดที่สุด คือ
การปรับแก้ขั้นตอนการ Backwash ให้ถูกต้อง ซึ่งประกอบด้วย 2 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนการ Backwash ถังกรองน้ำที่ถูกต้อง
- Backwash
- Fast rinse
โดยขั้นตอน Fast rinse ซึ่งเป็นขั้นตอนเล็กๆ สั้นๆ ที่สำคัญมาก เกือบทุกโรงงานจะข้ามขั้นตอนนี้😊
หากดำเนินการตามขั้นตอนการ Backwash ที่ถูกต้องแล้วยังคงแก้ปัญหาน้ำที่ผลิตได้ไม่สะอาด การใช้ Air Scouring ซึ่งเป็นการป้อนลมเพื่อช่วยทำให้สารกรองขยับตัวและตีตะกอน หลังจากนั้นก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการ Backwash และ Fast rinse (ยังไม่ลืม ใช่มั้ยคะ ว่าต้อง Fast rinse ด้วย😌) การ Backwash ก็จะมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ต้นทุนน้อยแต่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างดี
การติดตั้งระบบป้อนลมเพื่อช่วยในการทำความสะอาดถังกรองน้ำอุตสาหกรรม หรือ Air Scouring นี้ วิศวกรจะต้องออกแบบให้การป้อนลมน้อยที่สุดเพื่อให้เฉพาะชั้นสารกรองประสิทธิผล(Effective bed) เท่านั้น ที่เกิดการขยับ (ขยับเพื่อให้ตะกอน(Suspended Solid : SS) ที่สะสมหลุดออก และไหลออกไปพร้อมน้ำที่ทำการ Backwash) หากชั้นสารกรองสำหรับรองอื่นๆ (Supporting bed) เช่น ชั้นหิน กรวด ทรายสำหรับรอง เกิดการขยับ แสดงถึงการออกแบบทางวิศวกรรมที่ผิดพลาด ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ(Operating cost) ที่สูงเกินความจำเป็น อีกทั้งระบบท่อรวบรวมน้ำด้านล่างอาจเกิดความเสียหายอันเนื่องจากชั้นสารกรองสำหรับรองเกิดการขยับ เสียดสี กระแทก