Sand–Anthracite Filter (Multi-media Filtration System)
ระบบกรองน้ำแบบชั้นผสม (Sand–Anthracite Filter)
1) หลักการกรองแบบชั้นผสม
ระบบกรองน้ำแบบชั้นผสม (Multi-media Filter) ใช้หลักการแยกของแข็งแขวนลอย (Suspended solids) และตะกอนละเอียดออกจากน้ำ โดยอาศัย “ความแตกต่างของขนาดและความหนาแน่นของสารกรอง (filter media)” ทำให้สามารถกรองได้ลึกกว่าและมีประสิทธิภาพสูงกว่าถังกรองที่ใช้สารกรองชนิดเดียว เช่น ทรายและกรวดกรองน้ำ (Selected Sand and Gravel filtration) โดยที่มีเพียงชั้นทรายละเอียดซึ่งอยู่ด้านบนทำหน้าที่เป็น Effective bed เท่านั้น
โครงสร้างทั่วไปของถังกรองชั้นผสมประกอบด้วย
-
ชั้นบน: Anthracite (ถ่านแอนทราไซต์)
-
ชั้นกลาง: Silica Sand (ทรายกรองละเอียด)
-
ชั้นล่าง: Gravel (กรวดรองพื้น)
น้ำไหลจากด้านบนลงด้านล่าง ผ่านสารกรองแต่ละชั้นโดยมีการลดขนาดช่องว่างของเม็ดกรองตามลำดับ → ตะกอนขนาดใหญ่จะถูกดักในชั้นบน และตะกอนละเอียดจะถูกดักในชั้นล่าง
2) บทบาทของ Anthracite (ชั้นบน)
Anthracite เป็นถ่านหินคุณภาพสูง มีโครงสร้างรูพรุน น้ำหนักเบา (density ประมาณ 1.5–1.6 g/cm³) และมีรูปทรงแหลม ทำให้สามารถดักจับตะกอนแขวนลอยขนาดใหญ่และฟิล์มจุลินทรีย์ได้ดี
คุณสมบัติทางกายภาพ
| รายการ | ค่าทั่วไป |
|---|---|
| ขนาดเม็ด (Effective size, ES) | 0.8–6.0 mm |
| ความหนาแน่น (Density) | 1.5–1.6 g/cm³ |
| ค่าสม่ำเสมอ (Uniformity coefficient, UC) | < 1.7 |
| ความลึกที่แนะนำ | 300–400 mm |
หน้าที่หลัก:
-
ดักจับตะกอนขนาดใหญ่, ฟิล์มชีวภาพ และสารอินทรีย์
-
ลดภาระการอุดตันในชั้นทราย
-
ปรับปรุงอัตราการกรองรวมของระบบ
3) บทบาทของ Sand (ชั้นล่าง)
ทรายกรอง (Silica Sand) ทำหน้าที่ดักจับตะกอนขนาดเล็ก (fine suspended solids) และลดความขุ่นของน้ำจนถึงระดับ < 5 NTU หรือดีกว่านั้น
คุณสมบัติทางกายภาพ
| รายการ | ค่าทั่วไป |
|---|---|
| ขนาดเม็ด (ES) | 0.4–1.0 mm |
| ความหนาแน่น | 2.6 g/cm³ |
| UC | < 1.6 |
| ความลึกที่แนะนำ | 250–300 mm |
หน้าที่หลัก:
-
กรองละเอียด ทำให้น้ำใส
-
เพิ่มพื้นที่สัมผัสรวม (filtration depth)
-
ทำงานร่วมกับ Anthracite เพื่อยืดรอบการ Backwash
4) การออกแบบและอัตราการกรอง
| รายการ | ค่ามาตรฐาน |
|---|---|
| อัตราการกรอง (Filtration rate) | 10–20 m/h |
| อัตราการล้างย้อน (Backwash rate) | 25–40 m/h (ขึ้นกับชนิดสารกรอง) |
| การขยายตัวของชั้นกรอง (Expansion during backwash) | 40–50% ของความสูงเดิม |
| ระยะเวลาล้างย้อน | 8–12 นาที |
| ความดันตกคร่อม (ΔP) ก่อน Backwash | 0.5–1.0 bar |
หลักการออกแบบสำคัญ:
-
Anthracite ต้องวางบนทรายได้โดยไม่ผสมกัน (density ต่ำกว่า)
-
Expansion rate ของ Anthracite และ Sand ต้องใกล้เคียงกัน เพื่อให้ชั้นไม่สลับระหว่าง backwash
-
ใช้ underdrain แนะนำท่อรับน้ำชนิดก้างปลา ที่กระจายรับน้ำได้สม่ำเสมอ ถ่ายแรงน้ำหนักสารกรองได้ดี ไม่แนะนำให้ใช้ Plate-with-Strainers เนื่องจากเมื่อใช้งานนานไปบริเวณรอยต่อระหว่าง Plate และตัวถัง จะไม่สามารถทนรับแรงกดน้ำหนักได้ ทำให้เกิดการรั่วไหลของสารกรอง
5) ตัวอย่างการคำนวณเบื้องต้น
เงื่อนไข:
-
Flow rate = 20 m³/h
-
อัตราการกรอง = 10 m/h
พื้นที่กรองที่ต้องการ:
เส้นผ่านศูนย์กลางถัง (D):
ความสูงของสารกรองรวม:
Backwash flow rate:
ดังนั้น ปั๊มล้างย้อนควรมีอัตราการจ่าย ~70 m³/h ที่แรงดัน 0.5–0.8 bar
6) การบำรุงรักษา
-
Backwash ทุกวัน หรือเมื่อความดันตกคร่อม (ΔP) > 0.8 bar
-
ตรวจระดับสารกรองทุก 6 เดือน หากสูญหายเกิน 10% ให้เติมใหม่
-
เปลี่ยนสารกรองทุก 3–5 ปี (Sand) และ 5–7 ปี (Anthracite)
-
ตรวจสอบการระบบท่อรับน้ำ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
7) ข้อดีของระบบชั้นผสม
-
ลดความขุ่นได้ดีกว่าระบบทรายเดี่ยว (Single-media)
-
ระยะเวลาระหว่างการ Backwash นานขึ้น 30–50%
-
เหมาะกับน้ำผิวดิน / น้ำบาดาลที่มีตะกอนละเอียด
-
สามารถเป็น Pretreatment ก่อน RO, Softener, UF หรือระบบผลิตน้ำดื่ม
8) การใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมไทย
-
ระบบผลิตน้ำประปาภายในโรงงาน – ใช้หลังถังตกตะกอน (Clarifier)
-
ระบบบำบัดน้ำเสียรีไซเคิล (Recycle) – ใช้ก่อน UF/RO เพื่อขจัด TSS
-
ระบบ Cooling Tower Make-up – ลดตะกอนและสารอินทรีย์ก่อนจ่ายน้ำเข้า Tower
9) ข้อสรุป
-
ระบบ Sand–Anthracite Filter หรือ Multi-media Filter เป็นหน่วยกรองหลักที่มีในแทบทุกระบบผลิตน้ำในโรงงาน
-
ใช้ความแตกต่างของขนาดและความหนาแน่นของสารกรองเพื่อให้กรองได้ลึกและมีประสิทธิภาพ
-
ออกแบบที่ดีจะต้องควบคุมอัตราการกรอง (10–15 m/h) และการขยายตัวของสารกรองระหว่าง Backwash ให้สัมพันธ์กัน เพื่อป้องกันการผสมของชั้นกรอง