สารกรองน้ำ เช่น Activated Carbon, Ion Exchange Resin, Anthracite, Sand หรือ Manganese Sand เป็นหัวใจสำคัญของระบบกรองน้ำอุตสาหกรรม การตรวจสอบสภาพสารกรองอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้มั่นใจว่าระบบยังทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงของการเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร
จุดประสงค์ของการตรวจสอบสารกรอง
-
เพื่อประเมินว่าสารกรองยังทำงานได้ตามสเปกหรือไม่
-
เพื่อตรวจหาสาเหตุของปัญหาน้ำกรอง เช่น น้ำขุ่น น้ำไม่ใส กลิ่นไม่พึงประสงค์
-
เพื่อวางแผนการเปลี่ยนหรือฟื้นฟูสารกรอง (Reactivation / Regeneration)
-
เพื่อป้องกันความเสียหายต่อถังกรอง หัวจ่ายน้ำ หรือระบบท่อ
สัญญาณที่บ่งบอกว่าสารกรองเริ่มเสื่อมสภาพ
-
แรงดันตกคร่อม (ΔP) สูงขึ้นเรื่อย ๆ แม้จะ Backwash แล้ว
-
น้ำกรองไม่ใส ค่าความขุ่น (Turbidity) สูงกว่ามาตรฐาน
-
เกิดการไหลของน้ำเป็นทาง (Channeling) ภายในชั้นสารกรอง
-
มีตะกอนหรือกลิ่นอับในถังกรอง โดยเฉพาะใน Activated Carbon
-
อัตราการไหลของน้ำลดลง แม้ปั๊มทำงานปกติ
-
เม็ดสารกรองแตก ละเอียด หรือจับกันเป็นก้อน
ขั้นตอนการตรวจสอบสภาพสารกรอง
-
ตรวจวัดแรงดันตกคร่อม (Pressure Drop):
บันทึกค่า ΔP ระหว่าง Inlet–Outlet อย่างสม่ำเสมอ หากเพิ่มขึ้นเกิน 30% จากค่าเริ่มต้น แสดงว่าสารกรองเริ่มอุดตัน -
สังเกตการล้างย้อน (Backwash):
ตรวจสอบว่าขณะ Backwash ชั้นสารกรองมีการขยายตัวทั่วถึงหรือไม่ (Expanding Bed) -
สุ่มเก็บตัวอย่างสารกรอง:
นำตัวอย่างจากชั้นบน กลาง และล่างของถัง มาสังเกตสี กลิ่น และสภาพเม็ดกรอง -
ตรวจสอบสภาพกายภาพ:
หากเม็ดกรองมีลักษณะแตกละเอียดมากกว่า 10% ของปริมาณรวม ควรเปลี่ยนใหม่ -
วัดคุณภาพน้ำขาออก:
ตรวจค่าความขุ่น เหล็ก (Fe) แมงกานีส (Mn) หรือคลอรีนตกค้าง เพื่อประเมินประสิทธิภาพการกรอง -
ตรวจ Underdrain และ Nozzle:
ตรวจดูว่ามีสิ่งอุดตันหรือรอยแตกซึ่งอาจทำให้ล้างสารกรองไม่ทั่วถึง
ตารางแนะนำการตรวจสอบ
| รายการตรวจสอบ | ความถี่ | เกณฑ์ประเมิน |
|---|---|---|
| แรงดันตกคร่อม (ΔP) | รายสัปดาห์ | ถ้าเพิ่มเกิน 30% จากเดิม แสดงว่าเริ่มอุดตัน |
| การขยายตัวของชั้นกรองขณะ Backwash | ทุกครั้งที่ล้าง | ขยายตัว 20–40% ของความสูงชั้นกรอง |
| สีและกลิ่นของสารกรอง | ทุก 6 เดือน | เปลี่ยนสีเข้มหรือมีกลิ่นอับ → ควรพิจารณาเปลี่ยน |
| ความสึกกร่อนของเม็ดกรอง | ทุก 12 เดือน | ถ้าเม็ดแตกละเอียด >10% ควรเปลี่ยน |
| คุณภาพน้ำขาออก | รายเดือน | Turbidity ≤ 1 NTU, Fe/Mn ต่ำกว่ามาตรฐาน |
| สภาพหัวกระจายน้ำ (Underdrain/Nozzle) | ทุก 6 เดือน | ไม่มีการแตกหรืออุดตัน |
คำแนะนำจากวิศวกร aceken
-
จดบันทึกค่าแรงดันตกคร่อม (ΔP) และรอบการล้าง Backwash ทุกครั้ง เพื่อใช้วิเคราะห์แนวโน้มการเสื่อมของสารกรอง
-
เก็บตัวอย่างสารกรองเก่ามาเปรียบเทียบกับของใหม่ เพื่อดูการสึกกร่อนและการเปลี่ยนสี
-
ระบบที่มี Air Scouring จะช่วยลดการอุดตันและยืดอายุสารกรองได้ถึง 30–50%
-
ควรตรวจสุขภาพระบบกรองโดยทีมวิศวกรอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อวิเคราะห์สภาพชั้นกรองและระบบกระจายน้ำ
สรุป
การตรวจสอบสภาพสารกรองเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้ระบบกรองน้ำทำงานได้อย่างเสถียรและต่อเนื่อง การละเลยอาจทำให้เกิดแรงดันตกสูง น้ำไม่ใส หรือระบบต้องหยุดซ่อมโดยไม่จำเป็น
การดูแลอย่างสม่ำเสมอ ไม่เพียงช่วยยืดอายุสารกรอง แต่ยังลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาวอีกด้วย